ตั้งชื่อเรื่องอย่างนี้หวังว่าจะไม่ทำให้คุณผู้อ่านผิดหวังที่เรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้
ไม่ได้เกี่ยวกับหมาเลยสักนิด แต่มันเกี่ยวกับอาหารไทย
อาหารประจำชาติของอิชั้น ควินตินเคยอยู่ประเทศไทยมาประมาณ
1 ปี จัดว่าเป็นคนที่ชื่นชอบอาหารไทย แต่อาหารที่ชื่นชอบตลอดกาลของคิว(ควินติน) คืออาหารเม็กซิกัน และซีเรียล (Cereal) ดังนั้นเมื่อมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน อิชั้นจึงได้กินอาหารเม็กซิกันเป็นประจำ
รวมถึงได้ฝึกหัดวิทยายุทธ์ในการทำอาหารเหล่านี้ไว้พอสมควร
แต่กระนั้นอิชั้นก็ยังคงคิดถึงอาหารไทยสุดที่รักอย่างแน่นอน ก็ทำบ้างอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง
สามีสุดที่รักก็กินอย่างเอร็ดอร่อย สิ่งที่ทำให้ฉันต้องเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา
นั่นก็มีสาเหตุมาจากกลิ่นอาหารไทยนั่นเอง
ด้วยส่วนผสมของเครื่องแกงไทยบวกกับการที่ฉันอยู่อพาทเมนต์ ประตู หน้าต่างจึงมีไม่มากนัก
กลิ่นแกงจึงติดห้องประมาณสามวันจึงจะเริ่มจางลง พ่อตัวดีจึงได้โอกาสแซวตลอด เวลากลับมาห้องว่า “โห!!เอเชี่ยนฟู้ด” “เอเชี่ยน มาร์เก็ต” พร้อมทั้งสะบัดมือไปมา
ถ้าพูดแค่ครั้งเดียวก็คงไม่เท่าไหร่ แต่มันหลายครั้งนี่ซิ เราก็เข้าใจนะว่า กลิ่นมันแรงจริงๆ แต่เวลาเราฟังว่า
เค้าไม่ชอบกลิ่นอาหารของเรา เราแปลในสมองไปว่า เค้าไม่ยอมรับในความเป็นเราด้วย
ว่าแล้วศรัณยา ก็เลยบอกสามีว่า “ถ้าอย่างนั้น ฉันจะไม่ทำอาหารไทยอีกต่อไป” ส่วนสามีนั้น เค้าแค่แซวเฉยๆตามความจริงที่ปรากฏ แต่เค้าก็ยังรักเราเหมือนเดิม เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำให้เค้าอย่างเช่นที่เคยเป็นมา ด้วยความที่ไม่เข้าใจว่าผู้หญิงกำลังประชดไง
เค้าก็เลยไม่ทักท้วงอะไร เข้าใจไปว่า เราไม่อยากทำอาหารไทยแล้วจริงๆ เราก็ประมาณ ทิฐิ ก็เลยกินแต่อาหารฝรั่งอย่างเดียวประมาณหนึ่งเดือนเต็มๆ
วันหนึ่งก็มานึกได้ถึงสิ่งที่พี่ๆที่แต่งงานแบบข้ามวัฒนธรรมเหมือนกันเคยสอนไว้ พี่เค้าสอนไว้ว่า เวลาสามีไม่ชอบอาหารของเรา
บางครั้งเค้าอาจพูดตรงๆออกมาเลย แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเค้าไม่รักเรานะ
แต่ด้วยความเป็นคนไทยของเรา เรามักจะเหมารวมไปว่า
เค้าไม่ชื่นชมในความสามารถของเราด้วย บางคนอาจคิดเลยเถิดไปว่า เค้าไม่รักเรา
เมื่อย้อนคิดได้ว่า สามีก็ยังรักเราดี แถมการที่เค้ามีเมียไทย
เค้าน่าจะมีโอกาสดีกว่าคนอื่นที่จะได้กินอาหารไทยอร่อยๆ
ว่าแล้วก็กลืนน้ำลายตัวเอง เริ่มทำอาหารไทยบ้างไรบ้างตามที่เคยเป็นมา แล้วก็หาโอกาสเหมาะๆพูดกับสามีด้วยความรักและความจริงใจ (และให้เกียรติ)ว่า สิ่งที่เธอพูดมานั้น มันทำร้ายจิตใจฉัน อยากบอกว่า ตอนพูดออกไปเนี่ย เป็นแบบพูดไปร้องไห้ไปเลยทีเดียว เล่นเอาสามีตกอกตกใจ นึกไม่ถึงว่า มันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ทุกวันนี้สามีไม่(กล้า)แซวอาหารไทยที่รักของเราอีกแล้ว ปรับตัวเข้าหาความแต่งต่างของกันและกัน บางวันต่างคนต่างทำอาหารโปรดของตัวเองแล้วมาแบ่งกันกิน เรื่องที่เล่ามานี้ หลายคนคงเคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาบ้าง เรื่องเล็กที่บางครั้งก็เป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องอยู๋ห่างใกล้บ้านเกิดเมืองนอนเช่นนี้
ว่าแล้วก็กลืนน้ำลายตัวเอง เริ่มทำอาหารไทยบ้างไรบ้างตามที่เคยเป็นมา แล้วก็หาโอกาสเหมาะๆพูดกับสามีด้วยความรักและความจริงใจ (และให้เกียรติ)ว่า สิ่งที่เธอพูดมานั้น มันทำร้ายจิตใจฉัน อยากบอกว่า ตอนพูดออกไปเนี่ย เป็นแบบพูดไปร้องไห้ไปเลยทีเดียว เล่นเอาสามีตกอกตกใจ นึกไม่ถึงว่า มันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ทุกวันนี้สามีไม่(กล้า)แซวอาหารไทยที่รักของเราอีกแล้ว ปรับตัวเข้าหาความแต่งต่างของกันและกัน บางวันต่างคนต่างทำอาหารโปรดของตัวเองแล้วมาแบ่งกันกิน เรื่องที่เล่ามานี้ หลายคนคงเคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาบ้าง เรื่องเล็กที่บางครั้งก็เป็นเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องอยู๋ห่างใกล้บ้านเกิดเมืองนอนเช่นนี้